ได้มีการจัดประชุมบอร์ดผู้บริหารขึ้นเมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมา โดยมีการรายงานถึงรายได้รวมสำหรับไตรมาสแรกของปี 2566 รายได้สุทธิทั้งสิ้น 1,735,734 พันดอลล่าหไต้หวัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 72,162 พันดอลล่าหไต้หวัน(4%) เมื่อเทียบกับยอดรวมของปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ในแง่ของด้านกำไรขาดทุน ได้กำไรอยู่ที่ 6,513 พันดอลล่าหไต้หวัน ส่วนผลขาดทุนหลังหักภาษีอยู่ที่ 667 พันดอลล่าหไต้หวัน หลังหักภาษีคิดเป็นต่อหุ้น 0.02 ดอลล่าหไต้หวัน โดยเหตุผลหลักมาจากการฟื้นตัวของทางตลาดยุโรปที่กำลังค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันขึ้นมาเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามกำไรก็ถูกลดทอนลงอันเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการขาดทุนเล็กน้อยในครั้งนี้
และในวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ตงไทจะมีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีขึ้นที่ห้องโสตทัศนูปกรณ์ของทางบริษัท โดยจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการบอร์ดบริหารใหม่ขึ้นด้วยในวันเดียวกันนี้
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 10 ทางตงไทได้มีการประกาศข้อมูลรายได้รวมประจำเดือนเมษายนปี 2566 อยู่ที่436,543 พันดอลล่าหไต้หวัน และรายได้รวมตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนเมษายนนั้นอยู่ที่ 2,172,277 พันดอลล่าหไต้หวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ 1% โดยในภาพรวมของตงไทกรุ๊ปนั้นมีคำสั่งซื้อสะสมในมืออยู่ที่ 5.3 พันล้านหยวน โดยมีสัดส่วนในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 46% ภาคอุตสาหกรรมการบิน 8% โดยมีสัดส่วนในภาคการตลาดกว่า 43% อยู่ในตลาดไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ 37% ในตลาดยุโรป ตลาดเอเชียและตลาดภูมิภาคอื่นๆอยู่ที่ 20%
ในส่วนของการพัฒนา ตงไทกรุ๊ปจากทางฝรั่งเศษอย่างบริษัท PCI SCEMM ได้มีการลงทุนและซื้อกิจการของ Cerimatec ซึ่งเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นให้บริการแบบครบวงจรในระบบการทำงานอัตโนมัติ ระบบซอฟต์แวร์อัจฉริยะต่างๆ ซึ่งทางเราคาดว่าเมื่อเข้าร่วมแล้ว จะสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในฐานการผลิตของโรงงานผลิตรถยนต์ในยุโรปของตงไทกรุ๊ป อีกทั้งช่วยขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มซัพพลายเออร์ เทีย 1 ฉ,ธช่วยเพิ่มความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ของตงไทกรุ๊ป และ PCI ในยุโรป เพิ่มการพัฒนาให้มากขึ้นในด้านอุตสาหกรรมการแพทย์และด้านการบิน รวมถึงขยายประเภทของกลุ่มอุตสาหกรรมให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
สำหรับ